ทีมวิจัย มหาวิทยาลัยเกษตร เผยข้อมูลการสำรวจสภาพสิ่งแวดล้อมบริเวณอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด(Koh Samed oil spil) พบค่าปิโตรเลียมไฮโดรคาร์บอนหรือสารตกค้างของน้ำมันดิบในน้ำและดินตลอดชายฝั่งอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด มีค่าลดลง คาดมีแนวโน้มกลับเข้าสู่สภาวะปกติอีกไม่ช้า ยืนยันความมั่นใจ นักท่องเที่ยวสามารถว่ายน้ำและกินอาหารทะเลได้
ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ หัวหน้าภาควิชาวิทยาศาตร์ทางทะเล เปิดเผยผลการติดตามสำรวจข้อมูลหลัง ลงพื้นที่เก็บข้อมูลตั้งแต่เกิดเหตุ โดยล่าสุด พบว่า สารปนเปื้อนปิโตรเลียมไฮโดรคาร์บอนที่สะสมในดินและน้ำมีค่าลดลง อย่างไรก็ตาม ผศ.ดร.ธรณ์ ยังระบุว่า ปัจจุบัน ประเทศไทยยังไม่มีค่ามาตรฐานในการวัดสารตกค้างในดินตะกอนในน้ำ จึงยังไม่สามารถชี้ชัดว่า ตะกอนดินชายฝั่งกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้วหรือไม่ แต่ถือว่าลดจากช่วง 2 เดือนแรกหลังเกิดเหตุ แม้จะยังไม่อยู่ในระดับเทียบเท่าค่าของอ่าวหรือชายฝั่งใกล้เคียง ขณะที่สภาพปะการังส่วนใหญ่ฟอกขาวแล้วกลับมาเป็น สีปกติเกือบทั้งหมดอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับการฟอกขาวของปะการังในกรณีที่มีสาเหตุมาจากปัญหาภาวะโลกร้อนซึ่งส่วนใหญ่มักใช้เวลาฟื้นตัวนาน 1-2 ปี (http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1394014192&grpid=01&catid=01)
ผศ.ดร. ธรณ์ กล่าวเสริมว่า "ขอให้ประชาชนมั่นใจและคลายความกังวล ด้วยข้อมูลที่โปร่งใสของทีมงานนักวิชาการ นักเรียน นักศึกษาเกษตรศาสตร์, จุฬาลงกรณ์ และม.บูรพากว่า 300 คน ทีมวิจัยจะแจ้งข้อมูลให้ทราบเป็นระยะ" (http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1394014192&grpid=01&catid=01)
การเผยผลติดตามการสำรวจสภาพบริเวณชายหาดทุกอ่าว บนเกาะเสม็ด(thailand oil spill) อย่างเป็นระยะใกล้ชิดแบบนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งความมั่นใจ ที่จะช่วยให้นักท่องเที่ยวเข้าใจ มั่นใจ และพร้อมด้วยหัวใจ ที่จะไปเยือนชายหาดเกาะเสม็ด เพชรเม็ดงามแห่งทะเลตะวันออกอีกครั้ง และวันนี้เชื่อว่าหลายคนคงพร้อมเก็บกระเป๋าไปกินลม ชมคลื่น สูดความสดชื่นกันที่ชายหาดเกาะเสม็ดอีกครั้งแล้ว..พร้อมแล้วก็ออกเดินทางสู่เกาะเสม็ดกันเลย